ยาง Run-Flat (รีบส์แฟลต) แตกต่างจากยางรถยนต์ทั่วไปในแง่มาตรฐานและความสามารถในสถานการณ์ที่ยางรถเจริญเสียหายหรือแตก. ความแตกต่างสำคัญระหว่างยาง Run-Flat และยางรถยนต์ทั่วไปคือ
- ความสามารถในการขับหลังยางแตก: ยาง Run-Flat ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้หลังจากที่ยางแตก คุณสามารถขับรถไปย่างระมัดระไมได้เมื่อยางแตกโดยไม่ต้องหยุดทางของคุณอย่างรวดเร็ว. ยางทั่วไปที่แตกจะทำให้คุณต้องหยุดทางและเปลี่ยนยางทันที
- ไม่มีท่อลม: ยาง Run-Flat ไม่มีท่อลม เมื่อยาง Run-Flat แตก มีโครงสร้างพิเศษภายในที่ช่วยรักษาความหนาแน่นของยางแม้ยางเจริญแตก ยางรถทั่วไปมีท่อลมภายในที่ใช้เก็บลม
- น้ำหนัก: ยาง Run-Flat มักมีน้ำหนักมากกว่ายางรถทั่วไป เนื่องจากโครงสร้างพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อความทนทานในสถานการณ์ยางแตก
- ความสั่นสะเทือน: ยาง Run-Flat มักมีความสั่นสะเทือนมากกว่ายางรถทั่วไป เนื่องจากโครงสร้างพิเศษที่เหนียวแน่นเพื่อรองรับความแข็งตัวของยางแตก
- จำนวนชนิดของยาง: ยาง Run-Flat มักมีความหลากหลายน้อยกว่าในเรื่องขนาดและแบรนด์เมื่อเทียบกับยางรถทั่วไป
- ระยะเวลาการใช้งาน: ยาง Run-Flat มักมีระยะเวลาการใช้งานที่จำกัดหลังจากยางแตก คุณไม่ควรขับรถโดยไม่มีการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนยางนานเกินไปหลังจากยางแตก
ยาง Run-Flat มีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่ยางแตกหรือสูญหาย เพราะมันช่วยลดความไม่สะดวกและความเสียหายขณะขับรถ. แต่ควรทราบว่ายาง Run-Flat มีข้อจำกัดและควรตรวจสอบคู่มือรถหรือข้อมูลจากผู้ผลิตเกี่ยวกับการใช้งานและระยะเวลาการใช้งานของยาง Run-Flat ที่คุณใช้บนรถของคุณ